สรุป
- ความเสถียรของการไหล: เลือกพื้นที่ที่ของเหลวไหลอย่างสม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีข้อศอก วาล์ว หรือส่วนที่ทำให้เกิดความปั่นป่วน
- ตำแหน่งการติดตั้ง: กฎ "อย่างน้อย 10D ด้านหน้าและ 5D ด้านหลัง" ช่วยระบุจุดติดตั้งเครื่องวัดอัตราการไหลแบบใบพัดที่เหมาะสม
- ตัวกรอง: ติดตั้งตัวกรองเพื่อยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์และลดการรบกวน
- สำหรับท่อแนวนอน ให้ติดตั้งที่จุดต่ำสุดของส่วนโค้งเว้า; สำหรับท่อแนวตั้ง ให้ติดตั้งที่จุดที่ของเหลวไหลขึ้นด้านบนเพื่อให้การไหลคงที่
ในหลายอุตสาหกรรมมีการใช้เครื่องวัดอัตราการไหลแบบใบพัดเพื่อตรวจสอบการไหลของของเหลว แต่บ่อยครั้งที่ละเลยความสำคัญของการเลือกตำแหน่งการติดตั้งที่ถูกต้อง ซึ่งส่งผลให้การวัดค่าไม่แม่นยำ ปัจจัยต่าง ๆ เช่น สิ่งเจือปนในของเหลว ความดัน ปริมาณน้ำ และฟองอากาศ สามารถรบกวนการอ่านค่าของเครื่องวัดอัตราการไหลได้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้และเพื่อให้ได้ค่าการวัดที่แม่นยำ LORRIC ขอแนะนำให้ผู้ใช้เลือกตำแหน่งการติดตั้งที่เหมาะสมก่อนการตัดท่อ วิธีนี้ช่วยลดความคลาดเคลื่อน ลดความยุ่งยากในการย้ายเครื่องวัดอัตราการไหล ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในสถานที่
จากประสบการณ์หลายปีของช่างเทคนิคของเราที่ทำงานร่วมกับลูกค้าและการติดตั้งในสถานที่ เราได้สรุปวิธีการดังต่อไปนี้เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ระบุตำแหน่งการติดตั้งที่เหมาะสมบนท่อแนวนอนและแนวตั้ง นอกจากนี้ เรายังแบ่งปันเทคนิคสำคัญเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวัดของเครื่องวัดอัตราการไหล
1. สนามการไหลที่เสถียรช่วยให้ได้ค่าการวัดที่แม่นยำที่สุด
อันดับแรก เครื่องวัดอัตราการไหลควรติดตั้งในบริเวณที่ของเหลวไหลอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการติดตั้งเครื่องวัดใกล้ข้อศอก วาล์ว หรือส่วนประกอบอื่นที่อาจทำให้เกิดความปั่นป่วน
เมื่อของเหลวเริ่มเข้าสู่ท่อ ความเร็วของการไหลจะไม่เสถียรเนื่องจากทิศทางการเดินทางที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการวัดเนื่องจากค่าที่ผันผวน อย่างไรก็ตาม เมื่อของไหลไหลผ่านไปเรื่อย ๆ และเกิดแรงเสียดทาน จะเกิดการไหลเต็มที่ (Fully Developed Flow) ซึ่งช่วยให้ความเร็วของการไหลมีความเสถียร ส่งผลให้ได้ค่าการวัดอัตราการไหลที่แม่นยำที่สุด
2. เคล็ดลับสำหรับการติดตั้งเครื่องวัดอัตราการไหลแบบใบพัดอย่างถูกต้อง
1 ) อย่างน้อย 10D ด้านหน้าและ 5D ด้านหลัง
หลังจากระบุส่วนของท่อที่ของเหลวไหลได้อย่างสม่ำเสมอ ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกตำแหน่งการติดตั้งที่แม่นยำสำหรับเครื่องวัดอัตราการไหล กุญแจสำคัญคือการปฏิบัติตามกฎ "10D ด้านหน้าและ 5D ด้านหลัง":
- 10D ด้านต้นน้ำ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีท่อตรงยาวอย่างน้อย 10 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลาง (D) ของท่อก่อนเครื่องวัด (ในทิศทางที่ของไหลมาจาก)
- 5D ด้านปลายน้ำ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีท่อตรงยาวอย่างน้อย 5 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลาง (D) ของท่อหลังเครื่องวัด (ในทิศทางที่ของไหลไหลไป)
สมมติว่าเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) ของท่อคือ 4 ซม. ลองใช้กฎ "อย่างน้อย 10D ด้านหน้าและ 5D ด้านหลัง" เพื่อกำหนดความยาวที่ต้องการของท่อตรง:
• ด้านต้นน้ำ (Flow-in) ความยาวท่อตรง:
10 × ID = 10 × 4 ซม. = 40 ซม.
• ด้านปลายน้ำ (Flow-out) ความยาวท่อตรง:
5 × ID = 5 × 4 ซม. = 20 ซม.
สำหรับท่อที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน 4 ซม. ตำแหน่งการติดตั้งที่เหมาะสมของเครื่องวัดอัตราการไหลจะต้องมีท่อตรงยาว 40 ซม. ด้านต้นน้ำและ 20 ซม. ด้านปลายน้ำ
หากไม่ทราบเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) สามารถใช้เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (OD) พร้อมความหนาของผนังเพื่อคำนวณ ID:
สูตร: ID = OD − 2 × ความหนาของผนัง